Skip to Content

จับคู่ธุรกิจ ด้วยระบบ Business Matching ในงาน Event

20 มีนาคม ค.ศ. 2025 โดย
One Event

จับคู่ธุรกิจ ด้วยระบบ Business Matching ในงาน Event

 จับคู่ธุรกิจ ด้วยระบบ Business Matching ในงาน Event จับคู่ธุรกิจ ด้วยระบบ Business Matching ในงาน Event คือหนึ่งในเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยเปลี่ยนงานอีเวนต์ทั่วไปให้กลายเป็น "พื้นที่สร้างโอกาส" ทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงสินค้า งานเจรจาทางธุรกิจ งานสัมมนา หรือแม้แต่งาน networking แบบเฉพาะกลุ่ม ในโลกที่ธุรกิจต้องการ “เจอคนที่ใช่” อย่างรวดเร็ว การใช้ระบบจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ทำให้งาน Event ไม่ได้เป็นแค่เวทีโชว์สินค้า แต่เป็นพื้นที่ที่ผู้เข้าร่วมสามารถต่อยอดความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เจรจา แลกเปลี่ยน และเกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม

 บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับระบบ Business Matching ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงการประยุกต์ใช้ให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด พร้อมแนวทางเลือกแพลตฟอร์ม เทคนิคการเตรียมงาน และประโยชน์ที่คุณอาจคาดไม่ถึง 

จับคู่ธุรกิจ ด้วยระบบ Business Matching ในงาน Event 

 ในอดีต ผู้เข้าร่วมงานมักใช้วิธี “เดินดูบูธ” หรือ “แลกนามบัตร” เพื่อเริ่มต้นการพูดคุย แต่รูปแบบนี้ใช้เวลามาก และไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะเจอคู่ธุรกิจที่ตรงใจ ระบบ Business Matching คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการนัดหมาย เจรจา และบริหารการจับคู่ล่วงหน้าอย่างมีระบบ เปรียบได้กับการ “Matching ก่อนเดต” เพื่อให้คู่เจรจาทางธุรกิจเจอกันได้แม่นยำและตรงเป้า

ประโยชน์ของ Business Matching ในงาน Event

 ในการจัดงานอีเวนต์ยุคใหม่ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ การเจรจา และการขยายเครือข่าย “Business Matching” ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ผู้จัดงานไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผู้เข้าร่วมเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถวัดผลลัพธ์ของงานได้อย่างเป็นรูปธรรม การมีระบบจับคู่ทางธุรกิจที่ดี เทียบได้กับการมอบ “โอกาส” ให้ผู้ร่วมงานได้พบกับพันธมิตร คู่ค้า นักลงทุน หรือกลุ่มเป้าหมายที่ตรงความต้องการ ซึ่งเป็นคุณค่าที่เหนือกว่าการแค่เดินชมบูธหรือเข้าฟังสัมมนา

รูปแบบของระบบ Business Matching ที่ใช้กันในปัจจุบัน

 Business Matching ช่วยลดระยะเวลาในการแสวงหาความร่วมมือทางธุรกิจ เพราะระบบจะช่วยคัดกรองข้อมูลของแต่ละฝ่ายไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เกิดการจับคู่ที่มีความเป็นไปได้สูง นำไปสู่การเจรจาที่ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย นักลงทุนกับผู้ประกอบการ หรือองค์กรที่มีบริการเสริมกัน เช่น ธุรกิจแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่มองหาผู้พัฒนาระบบ หรือผู้ผลิตสินค้าที่มองหาช่องทางการจัดจำหน่าย

 รูปแบบของระบบ Business Matching ที่ใช้กันในปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้นตามระดับของเทคโนโลยีและขนาดของงาน เริ่มตั้งแต่รูปแบบพื้นฐานที่เป็นการจับคู่ผ่านเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ประสานล่วงหน้า จนถึงระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบที่ให้ผู้เข้าร่วมลงทะเบียนข้อมูลธุรกิจของตนเอง เลือกความต้องการ และระบบจะทำการแมตช์โดยอัตโนมัติ พร้อมให้จองเวลานัดหมายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ทันที บางงานใช้เทคโนโลยี AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรม ความสนใจ และประวัติการเจรจาในอดีต เพื่อให้การจับคู่นั้นแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งระบบบางประเภทยังรองรับทั้งแบบ On-site และ Online ช่วยให้การเจรจาสามารถเกิดขึ้นได้แม้อยู่ต่างประเทศหรือไม่สะดวกเดินทาง

ขั้นตอนการวางระบบจับคู่ธุรกิจให้ได้ผลจริง

 ในการวางระบบ Business Matching ให้ได้ผลจริง ผู้จัดต้องเริ่มจากการออกแบบแบบฟอร์มลงทะเบียนที่เก็บข้อมูลอย่างครบถ้วน ทั้งด้านโปรไฟล์ธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ ความต้องการทางธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย และจุดประสงค์ในการเข้าร่วมงาน จากนั้นต้องมีการจัดหมวดหมู่และกำหนดเงื่อนไขในการแมตช์ เช่น ให้ระบบแนะนำคู่ที่มีเป้าหมายตรงกัน หรือตรงตามเงื่อนไขด้านอุตสาหกรรม ตำแหน่ง หรือขนาดธุรกิจ เมื่อได้คู่ที่มีความเป็นไปได้แล้ว ควรเปิดให้ผู้ใช้สามารถเลือกขอเจรจา หรือยืนยันนัดหมายด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น ไม่เป็นภาระ และรู้สึกมีอิสระในการตัดสินใจ การออกแบบขั้นตอนทั้งหมดนี้ควรให้ประสบการณ์ผู้ใช้งาน (UX) เป็นหัวใจสำคัญ และต้องมีทีมงานสนับสนุนเพื่อแก้ปัญหาได้ทันที

ปัจจัยความสำเร็จในการจับคู่ทางธุรกิจ

 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการจับคู่ทางธุรกิจมีหลายประการ อย่างแรกคือ “ความแม่นยำของข้อมูล” ซึ่งมาจากการที่ผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน การสื่อสารชัดเจน และเข้าใจว่าตนเองต้องการอะไรจากงานครั้งนี้ ประการต่อมาคือ “ความพร้อมของทั้งสองฝ่าย” ที่จะเปิดใจ เจรจา และต่อยอดความร่วมมือ ไม่ใช่เพียงการนัดคุยแบบผิวเผิน และสุดท้ายคือ “ระบบสนับสนุนที่ดี” เช่น เจ้าหน้าที่ที่ช่วยประสานหากมีปัญหา ระบบเตือนการนัดหมาย หรือพื้นที่เจรจาที่เป็นส่วนตัวและเอื้อต่อการสนทนาอย่างจริงจัง สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งเสริมให้การแมตช์ที่เกิดขึ้นนำไปสู่การต่อยอดได้จริง

ตัวอย่างการใช้ระบบ Business Matching ที่สร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม

 ตัวอย่างที่น่าสนใจของการใช้ระบบ Business Matching อย่างได้ผล คือในงานมหกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการระดับประเทศ ที่เปิดโอกาสให้ SME ทั่วประเทศมาพบกับผู้จัดจำหน่ายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ผ่านระบบนัดหมายล่วงหน้าที่ผู้สมัครสามารถกรอกข้อมูลสินค้า รูปภาพ ราคาขาย และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึง เมื่อถึงวันงาน ผู้ประกอบการแต่ละรายจะได้รับตารางนัดพบกับผู้ซื้อที่สนใจสินค้าของตน ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายการตลาด หรือแม้แต่ซีอีโอโดยตรง ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือหลายรายสามารถเซ็นสัญญาความร่วมมือภายในไม่กี่วันหลังงาน หรือได้รับข้อเสนอให้ทดลองวางจำหน่ายสินค้าในห้างจริงอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของระบบที่ถูกออกแบบมาอย่างเข้าใจความต้องการของทั้งสองฝ่าย และสนับสนุนให้เกิดการเจรจาที่มีคุณภาพ

ประโยชน์ของ Business Matching ในงาน Event

การเพิ่มระบบ Business Matching ให้กับงานอีเวนต์ ไม่ได้แค่ “อำนวยความสะดวก” แต่ยังช่วย “สร้างมูลค่า” ให้กับผู้เข้าร่วมและผู้จัดงานอย่างมหาศาล

ประโยชน์หลัก ๆ ได้แก่:

  • เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ: ทำให้ผู้ร่วมงานเจอพันธมิตรที่เหมาะสมในเวลาอันสั้น
  • ลดเวลาสุ่มเจรจา: จัดลำดับผู้ที่ควรพบตามความสนใจ / ประเภทธุรกิจ
  • เพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้เข้าร่วม: เพราะได้พบคนที่ “ตรงจุดประสงค์”
  • สร้างภาพลักษณ์งานที่เป็นมืออาชีพ: โดยเฉพาะหากงานเกี่ยวข้องกับ B2B หรือการส่งเสริมการลงทุน
  • เก็บข้อมูลได้ชัดเจน: ทั้งเรื่องพฤติกรรมการจับคู่ ความต้องการ และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

รูปแบบของระบบ Business Matching ที่ใช้กันในปัจจุบัน

 ระบบจับคู่ธุรกิจมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แบบง่ายที่จัดตารางนัดหมายด้วย Excel ไปจนถึงระบบอัตโนมัติที่ใช้ AI ช่วยแนะนำคู่ที่เหมาะสม

รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่:

  • ระบบจองคิวแบบแมนนวล: ผู้จัดนัดหมายให้ตามความสนใจที่ระบุไว้
  • ระบบ Online Matching: ผู้เข้าร่วมกรอกข้อมูลและเลือกผู้ที่สนใจล่วงหน้า
  • AI Matching Engine: ระบบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ ความสนใจ และพฤติกรรม เพื่อเสนอ “คู่ที่ใช่” โดยอัตโนมัติ
  • ระบบ Hybrid: ผสมผสานระหว่างการเลือกจับคู่เองกับการจับคู่อัตโนมัติ
  • จับคู่แบบกลุ่ม (Group Matching): เหมาะสำหรับงานขนาดใหญ่ ที่ใช้ระบบห้องประชุมย่อยและจับคู่แบบกลุ่มเฉพาะประเด็น

ขั้นตอนการวางระบบจับคู่ธุรกิจให้ได้ผลจริง

 การวางระบบให้ Business Matching ได้ผล ต้องมีการเตรียมพร้อมทั้งในด้านระบบ เทคโนโลยี และกระบวนการของทีมงาน

ขั้นตอนแนะนำ:

  • ออกแบบแบบฟอร์มลงทะเบียน: ให้ผู้เข้าร่วมระบุข้อมูลสำคัญ เช่น ประเภทธุรกิจ กลุ่มเป้าหมายที่อยากเจอ ผลิตภัณฑ์หลัก ฯลฯ
  • กำหนดรูปแบบการจับคู่: จะให้เลือกเอง หรือใช้ระบบจับคู่โดย AI
  • เปิดระบบจับคู่ล่วงหน้า: อย่างน้อย 7–14 วันก่อนวันจริง
  • เตรียมพื้นที่ / ห้องเจรจา: ให้เหมาะกับรูปแบบการเจรจา
  • มีระบบเตือนและจัดตารางนัดหมายอัตโนมัติ
  • ติดตามผลหลังการจับคู่: เช่น ส่งแบบสอบถามว่านัดหมายเกิดขึ้นหรือไม่ / มีผลต่อยอดหรือเปล่า

ปัจจัยความสำเร็จในการจับคู่ทางธุรกิจ

แม้จะมีระบบที่ดี แต่ถ้าไม่มีการ “สนับสนุนด้านประสบการณ์” ที่ดี ก็อาจทำให้การจับคู่ไม่เกิดผลลัพธ์

ปัจจัยที่ควรใส่ใจ:

  • คุณภาพของข้อมูล: หากผู้ลงทะเบียนกรอกข้อมูลไม่ครบหรือไม่ตรง อาจจับคู่ผิด
  • การบริหารเวลา: ต้องบริหารการนัดหมายให้ไม่ชนกัน และมีเวลาพอสำหรับเจรจา
  • บรรยากาศการเจรจา: จัดสถานที่ให้เหมาะสม เป็นส่วนตัว เงียบ และมีเจ้าหน้าที่ดูแล
  • การติดตามผล: งานที่มีระบบติดตามผล เช่น มีผู้ประสานติดตามหลังเจรจา มักได้ผลดีกว่า
  • มีฝ่ายช่วยเหลือหน้างาน: เช่น ทีม Host หรือ Matchmaking Assistant คอยอำนวยความสะดวก

ตัวอย่างการใช้ระบบ Business Matching ที่สร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม

กรณีศึกษาจากงาน Thailand Smart Business Forum

จัดโดยหน่วยงานภาครัฐร่วมกับเอกชน มีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 รายจากไทยและต่างประเทศ

  • ใช้ระบบ Business Matching จาก OneEvent
  • เปิดให้กรอกแบบฟอร์มก่อนงาน 2 สัปดาห์
  • ระบบ AI จับคู่เจรจาเบื้องต้นให้
  • ทีมงานส่งสรุปรายชื่อคู่เจรจาพร้อมห้องและเวลาให้ผู้เข้าร่วม
  • มีเจ้าหน้าที่ 20 คนประจำหน้างานช่วยประสานงาน

ผลลัพธ์:

  • จับคู่สำเร็จกว่า 750 นัดหมาย
  • เกิด MOU จริงภายใน 60 วันหลังงาน 48 ราย
  • ผู้เข้าร่วมให้คะแนนความพึงพอใจ 92%

สรุป

 ในยุคที่เวลาและโอกาสมีค่า ระบบจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) คือเครื่องมือที่จะเปลี่ยน “การพบกันโดยบังเอิญ” ให้เป็น “การเจรจาอย่างมีกลยุทธ์” สร้างประโยชน์ทั้งในเชิงธุรกิจ ภาพลักษณ์ และผลลัพธ์ระยะยาวให้กับผู้จัดและผู้เข้าร่วม


หากคุณต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์ กรุณาเยี่ยมชม --> One Event หรือติดต่อเรา คลิกที่นี่ 



นิ้ว One Event